หลังจากที่ช่วงที่ผ่านมา มีโอกาสได้นั่งสมาธิ เขียน journal ทบทวนตัวเองอยู่บ่อยๆ ในความคิดเรา ความสุขคือการมองเห็นความสำคัญของสิ่งรอบตัว ความรู้สึกขอบคุณไม่ว่าจะ ขอบคุณครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน หน้าที่การงาน น้องหมา น้องแมว ขอบคุณตัวเอง หรืออาจจะเป็นสิ่งของอย่างบ้าน รถเช่นกัน โดยที่เราต้องอยู่กับปัจจุบันด้วย การนึกถึงเรื่องดีๆในอดีต อาจจะเป็นความสุขก็จริง แต่นั่นอาจจะทำให้เรามัวแต่จมอยู่กับอดีต โดยลืมมองว่า ปัจจุบันก็เป็นความสุขของเราด้วย ความสุขเกิดขึ้นในใจ เป็นความรู้สึกยินดี ดีใจ ใจฟู ความสำเร็จ อารมณ์ผ่อนคลาย อารมณ์ดี โดยความสุขจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเราด้วย อย่างเช่น ถ้าเราถูกล็อตเตอร์ เราก็มีความสุข แต่ถ้าเราเริ่มเปรียบเทียบว่า ทำไมเราไม่ถูกรางวัลที่หนึ่ง นั่งทำให้ความสุขที่เราควรจะยินดีเลือนหายไป พลอยขอแชร์วิธีที่ใช้ในการมองหาความสุขเล็กๆน้อยๆในแต่ละวัน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขมากขึ้นนะคะ
วิธีมองหาความสุขเล็กๆในแต่ละวัน
นั่งสมาธิ
พลอยนั่งสมาธิก่อนนอน และหลังจากตื่นนอนในแต่ละวัน มีแอบอู้บ้างบางวัน 🙂 สิ่งที่พบคือ เราได้อยู่กับตัวเองจริงๆ ไม่มีตัวตน คอยดูแค่ความคิดที่โผล่ขึ้นมา ไม่มีเรื่องราวที่ยังจัดการไม่ได้ ไม่มีปัญหาที่ยังหาทางออกไม่เจอ ทำให้ค้นพบความสงบในจิตใจ หลังจะนั่งสมาธิแล้ว จะรู้สึกจิตใจสงบ มีความรู้สึกรักตัวเองเกิดขึ้นมาก ความรู้สึกดีกับตัวเองนี้ก้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขของพลอยค่ะ พลอยคิดว่าการรักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราต้องรักตัวเองก่อน รักตัวเองให้มากๆ เราจะไม่ยอมให้คนอื่นมาทำไม่ดีกับเรา รักษา Boundary หรือกำหนดขอบเขตกับคนอื่น ไมให้ใครมาทำลายความสุขของเราค่ะ นอกจากนี้สมาธิช่วยให้เวลาที่เราเจอปัญหาในแต่ละวัน สามารถดึงสติได้เร็ว ไม่โต้ตอบไปตามอารมณ์ ลดการขัดแย้งที่ไม่จำเป็น มีความสงบสุขในชีวิตมากขึ้นทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำให้รู้สึกภูมิใจในตัวเอง ที่สามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่หุนหันพลันแล่น การภูมิใจในตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการรักตัวเองที่นำมาซึ่งความสุขเหมือนกันค่ะ
มีกล่องความสุขเล็กๆในใจ
ถ้าเจอเหตุการณ์ประทับใจเล็กๆน้อยๆ หรือแม้แต่ดอกไม้ที่กำลังออกดอก ลองยิ้มให้กับดอกไม้ดูค่ะ หลังจากนั้นพลอยจะเก็บลงกล่องความสุขในใจ มองสิ่งที่เป็นความสุข แล้วเก็บไว้ในใจ การได้คุยกับเพื่อน ได้อ่านหนังสือดีๆ กินอาหารดีๆ ได้ดูแลตัวเองก็เป็นความสุขเล็กๆได้ทุกวันค่ะ หรือบางคนถ่ายรูปสัตว์เลี้ยง ก็เป็นความสุขของเราแล้ว สะสมความสุขไว้เรื่อยๆ ถ้าเราเจอเหตุการณ์ต่างๆ ก็ทำให้เรานึกถึงกล่องความสุขแล้วเรียกใช้ความสุขเหล่านั้นในช่วงเวลาที่เราเจอสถานการณ์ยากลำบาก ช่วยเติมเต็มให้เรากลับมายิ้มได้ค่ะ
Gratitude
Gratitude คือความรู้สึกขอบคุณ สำนึกรู้คุณสิ่งต่างๆ ในตอนเช้า หรือก่อนนอน เขียนขอบคุณสิ่งต่างๆ คน เหตุการณ์ เรื่องราว ที่เรารู้สึกขอบคุณค่ะ อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ได้ อย่างเช่น ขอบคุณเตียงนอนนุ่มๆสำหรับทุกคืนที่ผ่าน, ขอบคุณอาหารดีๆ, ขอบคุณตัวเองที่มีสุขภาพที่ดี การเขียน Gratitude Journal ทำให้เราอยู่กับความรู้สึกเชิงบวก การสำนึกรู้คุณก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เราเติบโตขึ้น ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง มีความรู้สึกนอกน้อมต่อสิ่งต่างๆมากขึ้น ส่วนตัวแล้วการเริ่มต้นวันด้วยความรู้สึกเชิงบวก ทำให้วันนั้นทั้งวัน มีแต่เรื่องดีๆ หรือถ้าหากว่า มีเรื่องกวนใจผ่านเข้ามา พลังงานด้านบอกของเรา ก็จะทำให้เราไม่มองเรื่องนั้นลบเกินไป การหาทางแก้ไขปัญหาก็เป็นเรื่องง่ายขึ้นค่ะฅ
คุยกับเพื่อนและครอบครัว
บางวันเราอาจจะยุ่งกับงานหรือเรื่องราวต่างๆ จนอาจจะลืมครอบครัว เพื่อน คนรอบตัว การอยู่นิ่งๆสักนิด ใช้เวลาวันละเล็กน้อยพูดคุยกับคนที่เรารัก เข้าใจเรา เป็นการเติมเต็มความสุขในใจได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เหมือนเป็นการชาร์ตพลัง ชาร์ตแบตของเราให้มีแรงใจในการใช้ชีวิต การรับรู้ว่าเรามีคนรัก และหวังดีอย่างจริงใจ เหมือนเป็นแรง support เรา ไม่ว่าจะมีอะไรมาลดความสุขของเรา แต่คนเหล่านี้ จะสร้างแต่ความสุขให้เราอย่างแน่นอนค่ะ อ้อ แต่เราต้องตัดคน toxic ออกจากชีวิตเราด้วยนะคะ บางคนทีทำให้เรามีแต่เรื่องร้อนใจ ความทุกข์ใจ หากเราไม่กล้าตัดออกไป สิ่งเหล่านี้จะคอยบั่นทอนจิตใจ ลดพลังงานเชิงบวกเราลงเรื่อยๆ ไม่เป็นผลดีต่อตัวเองค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องรักตัวเองโดยการตัดคนพวกนี้ออกไปค่ะ
positive thinking
การคิดบวกต่อสถานการณ์ที่เข้ามา การคิดบวกไม่ได้หมายถึงการมองโลกในแง่ดีเกินไปจนไม่ทันระวังตัวเองนะคะ การคิดบวกหมายถึงเมื่อเวลาเจอเหตูการณ์ไม่คาดคิด เจอปัญหาต่างๆเข้ามา เรามองให้เป็นข้อดี มองเป็นบทเรียนที่เราจะได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ เราจะมองเห็นทางแก้ปัญหา ไม่จมอยู่กับปัญหา คิดว่าสิ่งเหล่านี้แค่ผ่านมา แล้วจะผ่านไป คิดว่าวันนี้จะมีแต่เรื่องราวดีๆ มองหาข้อดีของผู้คน แทนที่จะมองแต่ข้อด้อยของเค้า เราก็มองข้อดีของเขาเหล่านั้นแทน จิตใจเราก็จะเบิกบาน เต็มไปด้วยความสุขค่ะ
การมี positive thinking เราจำเป็นต้องหมั่นฝึกฝนค่ะ เพราะธรรมชาติของมนุษย์ สัญชาตญานการเอาตัวรอด จะทำให้เรามองสิ่งคุกคามเป็นภัยของเรา เราจะคิดในแง่ลบเพื่อสั่งให้ร่างกายพร้อมต่อสู้ เพราะฉะนั้น การนั่งสมาธิ รวมถึงเขียน Gratitude Journal สามารถช่วยเราได้ค่ะ
ดูแลสุขภาพกาย
ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงซึ่งแน่นอนอยู่แล้ว การออกกำลังกายยังบ่มเพาะการรักตัวเองของเราด้วยค่ะ การมีสุขภาพกายที่ดีไม่เจ็บป่วย ทำให้เรามีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันค่ะ นอกจากนี้การออกกำลังกาย ยังทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาด้วย เราจะมีความสุขมากหลังจากออกกำลังกาย ร่างกายเสียเหงื่อ ดีต่อร่างกายแล้วยังดีต่อจิตใจด้วยค่ะ นอกจากนี้หากเราเล่นกีฬาเป็นกลุ่ม ได้พบเจอ พูดคุยกับคนที่มีความชอบเรื่องเดียวกัน เป็นการเติมเต็มพลังใจอีกทางหนึ่งค่ะ
ให้เวลาอยู่กับตัวเอง
หลายๆครั้งเราอาจจะวุ่นวายอยู่กับเรื่องอื่นๆ จนลืมให้เวลาพูดคุยกับตัวเอง การพูดคุย ลองใช้เวลาอยู่คนเดียว พูดคุยกับตัวเอง เขียนสิ่งที่เราคิดอยู่ในใจ สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ ค้นหาตัวเอง หาความต้องการลึกๆในจิตใจ เราอาจจะพบตัวตนด้านใหม่ๆของเราก็ได้ค่ะ อาจจะลองเริ่มต้นจาก Journal Prompt การตั้งคำถามกับตัวเอง แล้วเขียนลงใน Journal ของเรา หาเราเขียนไปมากๆเข้า เราจะพบว่าสิ่งที่เราเจอบ่อยๆ ทั้งที่มีความสุข และไม่มีความสุข คืออะไร หาวิธีจัดการและแก้ให้ ให้เรามีความสุขได้มากขึ้นในทุกสถานการณ์ของชีวิตค่ะ การให้เวลาตัวเองอาจจะรวมถึงการทำ self-care ต่างๆ เช่น หากเราชอบไปสังสรรค์ ควรให้เวลาตัวเองได้ไป หรือบางคนอาจจะชอบไปสปา ทานอาหารดีๆ หรือไปเที่ยวคนเดียว สิ่งเหล่านี้ส่งเสริมให้เรารักตัวเอง และมีความสุขได้ด้วยตัวเองค่ะ
ทำสิ่งที่ชอบ ทำอะไรใหม่ๆ
ลองทำ bucket list สิ่งที่เราไม่เคยทำ แล้วอยากทำดูค่ะ สัญญากับตัวเองว่าจะลองทำสิ่งใหม่ๆทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน เราอาจจะพบความชอบใหม่ๆ ค้นพบตัวเองในมุมใหม่ๆ และการได้ทำสิ่งที่เราชอบ ย่อมเป็นการสร้างความสุขให้เราอยู่แล้ว หางานอดิเรกหากเราไม่มี การได้ทำงานอดิเรกใช่ให้เรามีความสุขเหมือนได้มีเวลาอยู่กับตัวเองและสิ่งที่ตัวเองชอบ หายังไม่พบงานอดิเรกที่ชอบ ก็ลองทำไปเรื่อยๆค่ะ 🙂 แล้วเดี๋ยวเราก็จะพบเอง
ไม่เปรียบเทียบ
การเปรียบเทียบสามารถทำลายความสุขของเราได้อย่างง่ายดาย ทำลายความมั่นใจ ทำลายตัวตน ผลของการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นนั้นรุนแรงต่อสภาพจิตใจเรามากค่ะ เพราะฉะนั้นเราไม่ควรเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น การเปรียบเทียบก็เป็นสัญชาตญานของมนุษย์เช่นกัน การเปรียบเทียบที่ดีคือการอยากให้เราพัฒนาตัวเอง แต่ถ้าหากว่าเปรียบเทียบแล้วเราจมอยู่กับความผิดหวัง เราควรเลิกค่ะ ทุกคนไม่มีอะไรเหมือนกัน ไม่สามารถเทียบกันได้ แต่เราเป็นคนที่ดีกว่าเราคนเมื่อวานได้ค่ะ เปรียบเทียบตัวเองกับเราคนเมื่อวานก็พอ แต่ไม่ควรผิดหวัง หากเราทำได้ไม่ดีเท่าเมื่อวาน ในแต่ละวันเราก็มีอารมณ์ที่แตกต่างกัน ความพอใจแตกต่างกัน แค่ทำต่อไปก็พอค่ะ
ไม่ต้องรู้สึกผิดถ้าจะปฏิเสธ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือเราต้องกล้าที่จะปฏิเสธค่ะ อย่างเช่นว่า หากใครมาขอให้ทำอะไร แต่เราไม่อยากทำ หรือเราะไม่สะดวกจะทำให้ การปฏิเสธพร้อมบอกเหตุผล เป็นการเคารพตัวเองค่ะ การฝืนทำทำให้เราไม่มีความสุข ช่วงแรกๆอาจจะยากหน่อย หากโดยปกติแล้วเราพร้อมจะทำทุกอย่างที่คนอื่นขอ แต่เราสามารถฝึกได้ค่ะ เราจะพบว่าการปฏิเสธบางอย่างทำให้เรามีความสุขมากขึ้นเลยทีเดียว
การมีความสุข และรักษาความสุขเล็กๆน้อยๆ ทำให้เรามีมุมมองต่อสิ่งต่างๆเปลี่ยนไป จะเห็นสิ่งดีๆในชีวิตมากขึ้น ยิ้มมากขึ้น ใจฟูมากขึ้นแน่นอนค่ะ ขอให้ทุกคนรักตัวเอง และมีความสุขมากๆนะคะ 🙂