เราอาจจะได้ยินคำว่า คิดบวก อยู่บ่อยๆ ในหลากหลายสถานการณ์ และเราอาจจะเคยสับสนว่า การคิดบวก คือการมองโลกในแง่ดีมั้ย เพราะฟังดูแล้วการคิดบวกดูเป็นสิ่งที่ยากจะเข้าใจ ทำให้เราไม่สามารถคิดบวกได้ในเวลาที่จำเป็น เราจะขออธิบายความหมายของการคิดบวก ข้อดีต่างๆ ถ้าเราได้ลองฝึกการคิดบวกดู รวมถึงวิธีเล็กๆน้อยๆเปลี่ยนเราให้กลายเป็นคนคิดบวก พร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆในชีวิตค่ะ
คิดบวก คืออะไร?
คิดบวก สำหรับพลอยแล้ว คือแนวทางการใช้ความคิดในเชิงบวก ต่อมุมมองและทัศนคติ ในเรื่องสำคัญต่างๆในชีวิต ไม่ว่าเราจะเผชิญกับปัญหา ความล้มเหลว หรือสถานการณ์ยากลำบาก เราจะมองหาด้านดีในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น การคิดบวกไม่ได้หมายความว่าเราต้องปฏิเสธความจริงหรือปัญหาในชีวิต การมองโลกในแง่ดี เช่น มองว่า เดี๋ยวปัญหาก็จะดีขึ้น หรือผ่านพ้นไป โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย แต่มันคือการเรียนรู้ที่จะรับมือกับปัญหาด้วยมุมมองที่พร้อมแก้ปัญหา มองหาโอกาสในปัญหา และเปิดโอกาสให้ตัวเองเติบโต เพราะความคิดของเราคือเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดที่จะกำหนดทิศทางชีวิตของเรา เมื่อเราเลือกที่จะมองสิ่งต่าง ๆ ด้วยทัศนคติเชิงบวก เราสามารถสร้างพลังในตัวเองเพื่อรับมือกับความล้มเหลว สร้างแรงบันดาลใจ และดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตได้
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า “คิดบวก” สามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณได้อย่างไร พร้อมทั้งเสนอแนวทางปฏิบัติที่คุณสามารถเริ่มต้นได้ทันที เพื่อเปลี่ยนความคิดให้กลายเป็นพลังที่จะนำพาคุณไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าและเต็มไปด้วยความสุข
การคิดบวก เปลี่ยนแปลงชีวิตเราอย่างไรได้บ้าง
การเริ่มต้นวันด้วยคำพูดเหล่านี้ช่วยสร้างพลังบวก เสริมความมั่นใจ และทำให้เราพร้อมเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันด้วยสภาวะจิตใจที่แข็งแกร่ง และเบิกบาน
1. เปลี่ยนความล้มเหลวให้กลายเป็นบทเรียน
ในชีวิตของเรา ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การคิดบวกจะทำให้เราเปลี่ยนวิธีที่เรามองความล้มเหลวเปลี่ยนไป แทนที่จะรู้สึกผิดหวังหรือคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ เราสามารถมองว่าความล้มเหลวคือโอกาสในการเรียนรู้ เช่น หากเราสมัครงานแล้วไม่ได้รับเลือก แทนที่จะจมอยู่กับความเศร้า เปลี่ยนมุมมอง ลองวิเคราะห์ว่าทำไมถึงไม่ผ่าน แล้วพัฒนาตัวเองในจุดที่ต้องปรับปรุง เช่น ฝึกทักษะที่นายจ้างต้องการ หรือปรับปรุงการนำเสนอตัวเองครั้งต่อไป เมื่อเรามองทุกความล้มเหลวเป็นบทเรียน มันจะทำให้เราเติบโตและเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้น
2. ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
การคิดบวกจะช่วยให้เรามองข้ามข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนรอบตัว และเลือกที่จะชื่นชมข้อดีแทน เช่น ถ้าเพื่อนมาสาย เราอาจจะมองว่าเขามีเหตุผลบางอย่าง เช่น รถติด หรือมีปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้ แทนที่จะโกรธ เราอาจเลือกที่จะขอบคุณที่เขายังมาเจอกัน ซึ่งทัศนคติเช่นนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นกับคนรอบข้าง
3. ความเครียดลดลง ลดความกังวล
ความเครียดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในชีวิตประจำวัน แต่การคิดบวกสามารถช่วยลดความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ถ้าเราติดอยู่ในรถติด แทนที่จะหงุดหงิดหรือโทษสถานการณ์ การคิดบวกจะช่วยให้คุณใช้เวลานั้นอย่างมีความสุขมากขึ้น เช่น ฟังเพลง ฟังพอดแคสต์สร้างแรงบันดาลใจ หรือใช้เวลาในการวางแผนงานต่าง ๆ ในหัว วิธีนี้ช่วยเปลี่ยนสถานการณ์ที่ไม่น่าพอใจให้กลายเป็นช่วงเวลาที่มีประโยชน์และผ่อนคลาย การคิดบวกยังช่วยให้เราไม่จมอยู่กับความกังวลจนหมดพลังงาน เช่น หากแผนการเดินทางล่มเพราะพายุ คนคิดบวกจะไม่หมกมุ่นกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่จะมองหาแผนสำรอง เช่น เปลี่ยนไปเที่ยวในที่ที่ปลอดภัยแทน วิธีนี้ช่วยรักษาพลังงานและอารมณ์ที่ดีเพื่อรับมือกับสิ่งต่อไป เมื่อเกิดปัญหา
4. ดึงดูดโอกาสใหม่ ๆ และดึงดูดผู้คนที่มีพลังบวก
เมื่อมีความคิดบวก เราจะมองเห็นโอกาสมากขึ้นและพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิต เช่น หากเราได้รับโอกาสในการทำโปรเจกต์ใหญ่ในที่ทำงาน แทนที่จะกังวลว่าอาจทำไม่ได้ การคิดบวกจะช่วยให้มองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความสามารถและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ การที่มองโลกในแง่ดีแบบนี้ยังทำให้คนรอบข้างรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเรา และมักจะให้โอกาสใหม่ ๆ กับเราอีกในอนาคต คนที่คิดบวกมักจะมีพลังงานที่ดีและดึงดูดผู้คนที่มีแนวคิดเหมือนกันเข้ามาในชีวิต เช่น หากมีทัศนคติที่ดีในที่ทำงาน เพื่อนร่วมงานจะรู้สึกสบายใจและอยากทำงานกับเรามากขึ้น
5. มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
สุขภาพจิตที่ดีเริ่มต้นจากความคิด การคิดบวกช่วยลดความวิตกกังวลและสร้างความสุขในชีวิต เช่น เมื่อเจอเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้รู้สึกแย่ การคิดบวกจะช่วยให้เรามองข้ามและโฟกัสไปที่สิ่งที่ดีแทน เช่น แทนที่จะโกรธเมื่อฝนตกและทำให้แผนเที่ยวล่ม เราอาจมองว่ามันเป็นโอกาสให้เราได้ใช้เวลาอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่ที่บ้าน ความคิดแบบนี้ช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้นในทุกสถานการณ์ การคิดบวกช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ทำให้สุขภาพจิตและร่างกายดีขึ้น คนคิดบวกจะไม่กังวลจนเกินไป แต่จะใช้เวลาพักผ่อน ดูแลตัวเอง และกลับมาเผชิญหน้ากับปัญหาใหม่ด้วยพลังงานที่สดชื่น
6. สร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง
การคิดบวกช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก เช่น หากเราตั้งเป้าหมายที่จะวิ่งมาราธอนครั้งแรก แทนที่จะคิดว่าเราไม่มีทางทำได้ การคิดบวกจะช่วยให้เราเชื่อว่าเราสามารถทำได้หากเราฝึกฝนและเตรียมตัวอย่างดี ความมั่นใจนี้จะเป็นพลังให้เราก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและบรรลุเป้าหมายที่เราเคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้
การฝึกคิดบวกสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีเหล่านี้:
1. ฝึกมองหาสิ่งดี ๆ ในทุกวัน
2. เปลี่ยนคำพูดในใจให้เป็นบวก
3. ใช้คำพูดเชิงบวกในชีวิตประจำวัน
4. ล้อมรอบตัวเองด้วยคนคิดบวก
5. ฝึกขอบคุณ (Gratitude)
6. ยิ้มให้บ่อยขึ้น
คําคมภาษาอังกฤษ คิดบวก สั้น ๆ
“Life is 10% what happens to us and 90% how we react to it.” — Charles R. Swindoll
“You are never too old to set another goal or to dream a new dream.” — C.S. Lewis
“Every day may not be good, but there’s something good in every day.”
“Life is really simple, but we insist on making it complicated.” — Confucius
“In the middle of difficulty lies opportunity.” — Albert Einstein
“When you think positive, good things happen.”
“The best way to predict your future is to create it.” — Abraham Lincoln
“Your life is as good as your mindset.”
“Don’t wait for the perfect moment. Take the moment and make it perfect.”
“A life is not measured by the number of breaths we take, but by the moments that take our breath away.”
การฝึกคิดบวกเป็นกระบวนการที่เริ่มต้นง่าย ๆ จากการเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญคือให้ทำอย่างต่อเนื่อง แล้วเราจะเริ่มรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นทีละนิดค่ะ 😊